กลับไปที่ข่าว
AI News

โลกหนังสะเทือน: James Cameron ชี้ GenAI ทำลายจิตวิญญาณมนุษย์—แต่ทำไมคนรุ่นใหม่ต้องรีบเรียนรู้

ผู้กำกับ Avatar วิพากษ์ GenAI ว่าไร้จิตวิญญาณ แต่ในขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่คนรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้เพื่อเป็น 'ผู้ควบคุม' ไม่ใช่ 'ผู้ถูกแทนที่'

Tiger's avatar
Tiger
Admin
2 นาที
1 ธันวาคม 2568
AI Generative AI GenAI

วันนี้มีประเด็นที่น่าสนใจอยากจะหยิบยกมาเล่าให้ฟังกันครับ ปกติแล้วเรามักจะได้ยินเรื่องราวของ AI ในแง่ของการสร้างโอกาสใหม่ ๆ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใช่ไหมครับ

แต่ล่าสุด เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ผู้กำกับระดับตำนานเจ้าของผลงานอย่าง Titanic, The Terminator และ Avatar ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาไม่ใช่แฟนตัวยงของเทคโนโลยี Generative AI (GenAI) สักเท่าไหร่นัก

คำถามคือ ทำไมคนที่สร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก ถึงมีความกังวลในเรื่องนี้กัน ดูคำตอบจากเขากันครับ


Performance Capture vs. GenAI

ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ CBS Sunday Morning เจมส์ ได้อธิบายความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยีที่เขาใช้กับ GenAI ไว้อย่างชัดเจน ดังนี้

Performance Capture** ถือเป็นกระบวนการบันทึก “การแสดงจริงของมนุษย์” แล้วนำข้อมูลนั้นไปเป็นแม่แบบให้ศิลปินดิจิทัลสร้างตัวละครหรือฉากขึ้นมา ซึ่งผู้คนมักเข้าใจผิดว่าทีมงานของเขาใช้คอมพิวเตอร์มาแทนที่นักแสดง แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่พวกเขากำลังทำคือ “การเฉลิมฉลองช่วงเวลาของการแสดง” เช่น ฉากใต้น้ำของ Avatar ที่นักแสดงต้องลงไปถ่ายทำในน้ำปริมาณมหาศาล เพื่อดึงศักยภาพการแสดงออกมาอย่างเต็มที่
ในทางกลับกัน GenAI สามารถ “สร้างตัวละคร นักแสดงและการแสดง” ขึ้นมาใหม่ทั้งหมดได้จากเพียงแค่ข้อความที่ป้อนเข้าไป ซึ่งคาเมรอนกล่าวถึงประเด็นนี้อย่างชัดเจนว่า
'No, that's horrifying… That's exactly what we're not doing'
ซึ่งสะท้อนว่า เขากลัวการสร้างสรรค์ที่ปราศจากจิตวิญญาณของมนุษย์


ถอดรหัสความกลัวของคาเมรอน และคุณค่าของความเป็นมนุษย์

สิ่งที่คาเมรอนกังวลนั้นลึกซึ้งกว่าเรื่องเทคนิค แต่เป็นเรื่องเชิงปรัชญาครับ เนื่องจาก
Performance Capture มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง และใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเสริม แต่
GenAI ใช้ข้อมูลมหาศาลมาสร้างผลงานใหม่ ทำให้เกิดคำถามว่า แล้วคุณค่าของแรงงานและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์อยู่ตรงไหน

ความกังวลนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่วงการภาพยนตร์ เพราะในปัจจุบัน AI อย่าง ChatGPT, Midjourney หรือเครื่องมืออื่น ๆ สามารถทำงานได้รวดเร็วจนน่าทึ่ง และทำให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ ขึ้นมากมาย

แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ตัว AI แต่คือคนที่ไม่รู้วิธีใช้มัน เพราะนั่นคือกลุ่มที่จะถูกแทนที่ได้ง่ายที่สุด


จาก "ผู้ถูกแทนที่" สู่ "ผู้ควบคุมเทคโนโลยี"

ดังนั้น การเรียนรู้ AI ในยุคนี้จึงไม่ใช่แค่การเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือ แต่คือการเรียนรู้ที่จะ “คิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ และตรวจสอบมัน” เพื่อนำไปใช้อย่างถูกทางและมีจริยธรรม

น้อง ๆ ทุกคนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่การใช้ AI เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นทักษะที่จำเป็นต้องมีคือ
1. เข้าใจรากฐาน Coding โดยเฉพาะภาษา Python ซึ่งเป็นภาษาหลักที่ใช้ในงานด้าน Software Engineer, Data Science และ GenAI
2. ลงมือทำโปรเจกต์จริง เพราะการสร้างโปรเจกต์ของตัวเองจะช่วยให้เข้าใจว่าควรใช้ AI อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่ถูกมันควบคุม
3. พัฒนาทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์และการคิดเชิงวิพากษ์ (Creativity & Critical Thinking) เพราะสองสิ่งนี้คือสิ่งที่ AI ยังไม่สามารถทำแทนได้ และเป็นจุดแข็งที่สำคัญของมนุษย์
4. เรียนรู้จริยธรรมของ AI (AI Ethics) เพื่อให้รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ และไม่ใช้ AI ไปในทางที่ละเมิดสิทธิหรือคุณค่าของผู้อื่น
5. ใช้ AI เป็น "ตัวเสริม" ไม่ใช่ "ตัวแทน" เพราะยิ่งมนุษย์และ AI ทำงานร่วมกันได้ดีเท่าไหร่ ผลงานที่ได้ก็จะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้นครับ

จากมุมมองทั้งหมดของของเจมส์ คาเมรอน เราสามารถสรุปสิ่งที่ควรทำได้ดังนี้ครับ
1. เรียนรู้โครงสร้างการทำงานของ AI เพื่อไม่ให้ตกเป็นฝ่ายที่ถูกแทนที่
2. ฝึกใช้ AI แบบ “Human in the Loop” ซึ่งหมายถึงมนุษย์เป็นผู้ควบคุม ตรวจสอบและแก้ไข
3. พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นทักษะที่ GenAI ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้อย่างแท้จริง
4. ทำโปรเจกต์จริง เพื่อทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียของ AI จากการลงมือปฏิบัติ
5. ศึกษาจริยธรรม AI เพื่อสร้างกรอบการใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ

ถึงเวลาแล้วล่ะครับ ที่เราจะเปลี่ยน AI ให้กลายเป็นพลังของการสร้างสรรค์อย่างมีคุณค่าและมีจริยธรรม หากใครไม่อยากถูก AI แทนที่ แต่ต้องการเป็นคนที่ "ใช้ AI เป็น" สามารถทักเข้ามาพูดคุยกับเราได้เสมอครับ

ที่มา: https://techcrunch.com/2025/11/30/avatar-director-james-cameron-says-generative-ai-is-horrifying/